The Terminal เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วชวนประทับใจมาก ๆ เรื่องหนึ่ง แม้จะมีอายุกว่า ๑๐ ปีแล้ว ( หนังฉายครั้งแรกเมื่อ ค. ศ.
แต่มีเด็กจำนวนหนึ่ง หลับตาเอามือไขว้หลังเดินไปเดินมา บางคนเตะโต๊ะ บางคนดึงผมเปียตัวเองเล่น และบางคนมาเขย่าถาดขนมแต่ไม่หยิบกิน มีเด็กที่เข้าร่วมในการศึกษาวิจัยนี้กว่า 600 คน เด็กส่วนน้อยเท่านั้นที่หยิบขนมกินทันทีเมื่อผู้วิจัยออกจากห้อง ที่เหลือค่อยๆ ทยอยเข้ามาหยิบกิน แต่มีเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่อดทนรอคอยได้ถึง 15 นาทีเพื่อจะได้ขนม 2 ชิ้น การทดสอบครั้งแรกเกิดขึ้นในปี ค. ศ. 1970 เรียกว่า "Marshmallow Test. " ทำขึ้นโดย Walter Mischel และ Ebbe B. Ebbesen ที่ Stanford University พบข้อสังเกตว่า วัยวุฒิมีความสัมพันธ์กับความอดทนรอคอย เด็กที่มีอายุมากกว่าจะมีความอดทนรอคอยสูงกว่าเด็กที่มีอายุน้อยกว่า ต่อมามีการทดลองและทดสอบโดยการให้เด็กอดทนรอคอยเพื่อจะได้รับสิ่งที่ปรารถนา ในหลายสถานการณ์ และต่อมาได้มีการศึกษาติดตาม (Follow-up Study) เด็กเหล่านั้นเมื่อเขาเติบใหญ่ขึ้น Follow-up Study ครั้งแรกเมื่อปี ค. 1988 พบว่า เด็กกลุ่มที่มีความสามารถในการอดทนรอคอยเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ผู้ปกครองบรรยายว่าบุตรหลานของเขาซึ่งอยู่ในระยะวัยรุ่นเป็นผู้มีสมรรถนะ หรือความสามารถทั่วไปสูงกว่าอีกกลุ่ม การศึกษาครั้งที่สองเมื่อปี ค.
ผมอยากโฟกัสไปยังมหาสมุทรของแพนโดร่า ซึ่งมันน่าจะเป็นจินตนาการที่บ้ามากๆจ ะเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยความหลากหลาย.
การรอคอยอะไรบางอย่าง หรือใครบางคน โดยไม่รู้จุดหมายว่ามันจะจบลงที่ใด... บางครั้งก็ดูน่ากลัว และเป็นการลงทุนอันยิ่งใหญ่ ต้องอาศัยพลังใจอย่างมหาศาลเพื่อที่จะอดทนรอผลลัพธ์ปลายทางที่ไม่รู้จุดหมายแน่ชัด อีกทั้งเป็นการกักขังตัวเองอยู่กับความหวัง และวันเวลาแห่งความสุขที่อาจไม่มีวันเป็นจริง ใครบ้างจะชอบการรอคอยที่ไร้ซึ่งขอบเขตของวันเวลาสิ้นสุด...?
)แล้ว ตั้งเป้าจะเริ่มทำการบินตั้งแต่เดือน พ. 2565 เป็นต้นไป ส่วนความถี่ และวัน เวลาในการบินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์แนวโน้มปริมาณผู้โดยสารขาเข้า ความต้องการขนส่งขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องบิน(คาร์โก้) รวมทั้งวางแผนบริหารจัดการการเชื่อมต่อเที่ยวบินภายในประเทศ เพื่อกำหนดวันและเวลาการทำการบินที่เหมาะสมต่อไป รวมทั้งอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการเปิดบินเส้นทางใหม่ ในระยะ 5 ปี เพื่อนำเสนอ ให้ กพท.
1990 พบว่าเด็กกลุ่มที่มีความสามารถในการอดทนรอคอยมีคะแนน SAT สูงกว่าอีกกลุ่ม (SAT แต่เดิมย่อมาจาก Scholastic Aptitude Test ต่อมาย่อมาจาก Scholastic Assessment Test แต่ปัจจุบันหมายถึง ข้อสอบมาตรฐานของผู้จบมัธยมศึกษาตอนปลาย และใช้ผลคะแนนสำหรับการสมัครเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย จึงไม่สนใจความหมายตามตัวอักษรมากนัก) ในปี ค. 2006 Mischel ได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ของ "การลงมือทำกับไม่ลงมือทำ" (Go/no go task) ในภารกิจต่างๆ ย้อนหลังเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ของผู้ที่สามารถอดทนรอคอยได้เมื่อครั้งอายุ 4 ปี และ พบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างความสามารถในการอดทนรอคอยกับ "การลงมือทำกับไม่ลงมือทำ" ผู้วิจัยให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ความสามารถอดทนรอคอยเมื่อครั้งอายุ 4 ปีนั้นเป็นร่องรอยเครื่องหมายบ่งชี้ (Marker) ที่สำคัญของการสร้างบุคลิกภาพของความแตกต่างในบุคคลเมื่อเติบโตขึ้น โดยให้ความสำคัญในพัฒนาการของสมองส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ในปี ค. 2011 การศึกษาพบว่า ความสามารถในการอดทนรอคอยเป็นบุคลิกภาพที่จะอยู่กับตัวตลอดไปชั่วชีวิต และจากการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการถ่ายภาพสมองพบว่า ความแตกต่างของผู้ที่มีความสามารถอดทนรอคอยมาก กับผู้ที่มีความอดทนรอคอยน้อยนั้น มีความแตกต่างในส่วนของสมองที่เป็น Prefrontal Cortex กับส่วนที่เป็น Ventral Striatum ในปี ค.